กำลังแสดงผล 1 ถึง 7 จากทั้งหมด 7

หัวข้อ: ซุบผักเม็ก

  1. #1
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ บ่าวดอนโบม
    วันที่สมัคร
    Sep 2007
    กระทู้
    1,421

    ซุบผักเม็ก

    ซุบผักเม็ก


    ก่อนที่จะเข้าสู่วิธีการทำ "ซุบผักเม็ก" ขออธิบายเล็ก ๆ
    น้อย ๆ เกี่ยวกับผักเม็กก่อนละกันนะ

    ผักเม็ก จะมีลักษณะ ใบเล็กกลมรี สีน้ำตาลหรือเขียวอ่อน รสฝาดอมเปรี้ยว คุณประโยชน์ เป็นเครื่องจิ้ม น้ำพริก ลาบก้อย


    เครื่องปรุง
    1. ผักเม็ก 2. ปลาช่อน 3. หอมขมต้มสุกแกะเปลือก
    4. วุ้นเส้น 5. หอมต้น 6. น้ำปลา
    7. งาคั่ว 8. ปลาร้า 9.พริกสด


    วิธีทำ
    1. นำปลาช่อนมาต้มให้สุก (ขณะต้มให้ใส่พริกสดลงไปด้วย ใส่ปลาร้าและน้ำปลาเพื่อปรุงรสน้ำต้มปลาให้กลมกล่อม
    2. เมื่อปลาช่อนสุกแล้ว นำปลาช่อนมาแกะเอาแต่เนื้อ
    3. นำพริกต้มสุกและเนื้อปลามาตำรวมกันในครก(ไม่ต้องละเอียดมาก)
    4. นำผักเม็กมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปในครก
    5. นำวุ้นเส้นที่แช่น้ำเปล่าจนอ่อนมาหั่น(ยาวประมาณ 3-4 นิ้วก็ได้) แล้วใส่ลงไปในครก
    6. นำหอยขมต้มสุกที่แกะเปลือกแล้ว ใส่ลงไปในคร
    7. เมื่อใส่ของทุกอย่างครบแล้ว ก็ตำ ตำ ตำ พอตำได้ที่แล้วก็นำน้ำต้มปลามาใส่ลงไปในครกเพื่อช่วยปรุงรส(ใส่ประมาณ 1-2 ช้อนชา) ถ้ายังจืดไปก็ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำปลา
    6. สุดท้ายก็ใส่งาขาวที่คั่วแล้วลงไป แล้วโครก ๆ หน่อยสัก 2-3 ครั้ง

  2. #2
    ฝ่ายบริหารระดับสูง สัญลักษณ์ของ ตรี ศรีเมืองใหม่
    วันที่สมัคร
    Apr 2006
    ที่อยู่
    หนุ่มอุบล คนศรีเมืองใหม่
    กระทู้
    4,490
    หน้านี้พอดีเน๊าะครับซุปผักเม็กใส่ป่นปลาค่อนา...สุดยอดครับ
    :welcome3"...ศรีเมืองใหม่แดนธรรมประเสริฐ ถิ่นกำเนิดหลวงปู่มั่น ลือลั่นสวรรค์ภูหล่น ยลสวยหินผานางคอย ลอยล่องแก่งจุการ งามตระหง่านเสาธงวงกลมใหญ่...">>>>> www.muangmai.ob.tc

  3. #3
    มิสบ้านมหา 2008 - 2009 สัญลักษณ์ของ หมูหวาน
    วันที่สมัคร
    Sep 2007
    กระทู้
    1,353
    บล็อก
    5
    หมูหวานบ่มักผักแมะ ผักเม็กมันหวานบ่ แต่เบิ่งสูตรแล้วน่ากินๆๆเนาะ อิอิ
    ขำบางโอกาส ฉลาดเป็นบางเวลา บ้าเป็นพักๆ แต่น่ารักตลอดกาล (^_^)

  4. #4
    เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สัญลักษณ์ของ สาวบ้านนา
    วันที่สมัคร
    Oct 2006
    กระทู้
    1,745
    โอวบ่เคยกิ๋น แหม มาคือผักกะด่นแท้ แม่นบ่น้อ ผักกะด่น

  5. #5
    หนุ่มบ้านดอนขอสดๆหนี่หละ กินกับลาบหอยโข่งเนาะ แซบคัก8)
    คนที่กล้าจะพ่ายแพ้เท่านั้น...ที่จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

  6. #6
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ บ่าวดอนโบม
    วันที่สมัคร
    Sep 2007
    กระทู้
    1,421
    กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ สาวบ้านนา
    โอวบ่เคยกิ๋น แหม มาคือผักกะด่นแท้ แม่นบ่น้อ ผักกะด่น
    ผักกระโดนเป็นแนวนี่เด้อครับ

    คุณค่า/ ประโยชน์
    ตำรับยาไทย ใช้ดอกบำรุงกำลังหลังคลอด บุตร ผลช่วยย่อยอาหาร ใบใช้ใส่แผล เปลือกต้น ใช้สมานอผล แก้เคล็ดเมื่อย แก้อักเสบจากงู ไม่มีพิษกัด
    ใช้เป็นผักจิ้มน้ำพริก ก้อย ลาบ และผักประกอบเมี่ยงมดแดง (เมี่ยงแบบ อีสาน)

  7. #7
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ บ่าวดอนโบม
    วันที่สมัคร
    Sep 2007
    กระทู้
    1,421

    ผักกระโดน

    ผักกระโดน

    ชื่อ"ผักกระโดน"
    วงศ์ "BARRINGTONIACEAE"
    1)"กระโดนน้ำ"
    ชื่อวิทยาศาสตร์"BarringtoniaAcutangula(Linn.)Gaertn."
    ชื่อพื้นเมือง"จิด(ภาคกลาง),ผักกระโดนน้ำ(อุดรธานี,
    สกลนคร,หนองคาย,ร้อยเอ็ด),กระโดนทุ่ง,กระโดนน้ำ
    (หนองคาย),จิกนา(ภาคใต้),ใบตอง(เหนือ),เรีย็ง(เขมร)
    2)"กระโดนบก"
    ชื่อวิทยาศาสตร์"CareyaSphaericaRoxb.""C.ArboreaRoxb."
    ชื่อพื้นเมือง"กระโดน,ผักกระโดน,กระโดนบก,กระโดนโคก
    (อุดรธานี,อีสาน),กะนอล(ขเมร)ขุย(กระเหรี่ยง-กาญจนบุรี)
    ผักปุย(เหนือ),ปุยกระโดน(ใต้),ปุยขาว,ผักฮาด(เหนือ),หูกวาง
    (จันทบุรี),พุย(ละว้า-เชียงใหม่)
    กระโดน
    เป็นพืชที่ชาวอีสานนิยมรับประทานเป็นผักจากคำบอกกล่าวของชาวบ้านกระโดนน้ำและกระโดนบกกระโดน
    น้ำมีต้นเตี้ยกว่ากระโดนบกและกระโดนน้ำชอบขึ้นตามที่ราบลุ่มมีน้ำท่วมถึงในฤดูน้ำหลาก(ชาวอีสานเรียก
    ว่าที่ลุ่มดินทาม)ส่วนกระโดนบกภาคกลางเรียกต้นจิกมักขึ้นทั่วไปตามป่าเบญจพรรณป่าทุ่งในชีวิตประจำ
    วันชาวบ้านได้อาศัยประโยชน์จากไม้ของกระโดนน้ำและกระโดนบกเนื้อไม้ของกระโดนบกมีประโยชน์หลาย
    อย่างเช่นใช้ในการสร้างบ้านเรือนและทำเครื่องเรือนทำเรือและพายทำครกสากทำเกวียนและเพลาได้เป็น
    ไม้เนื้อแข็งใช้ทำเป็นหมอนรองรถไฟได้ดีส่วนกระโดนน้ำมักใช้ทำเครื่องใช้และเครื่องเรือนไม้นวดข้าวสาก
    กระเดื่อง

    ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
    กระโดนบกเป็นไม้ต้นขนาดกลางความสูงประมาณ10-30เมตรลำต้นมักเตี้ยและมีกิ่งก้านสาขามาก
    เรือนยอดเป็นพุ่มกลมแน่นทึบเปลือกต้นเป็นสีเทาหนาและแตกล่อนเป็นแผ่นๆบางทีอาจถูกไฟป่าเผาทำ
    ให้เปลือกออกเป็นสีดำคล้ำจะทิ้งใบหมดและผลิใบใหม่พร้อมออกดอกเต็มต้นใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่กลีบ
    ออกเรียงเวียนกันตามปลายกิ่งขนาดใบกว้าง12-15ซม.ยามประมาณ25-30ซม.ขอบใบหยิกออกแบบ
    สลัลก้านใบยาวราว2-3ซม.ดอกออกเป็นเดี่ยวหรือเป็นช่อๆละ2-3ดอกกลีบดอกและกลีบรองดอกอย่าง
    ละ4กลีบกลีบดอกมีสีขาวหรือสีขาวนวลร่วงง่ายกลีบดอกเชื่อมกันเป็นรูประฆังเกสรตัวผู้ยาวและเป็นเส้น
    ฝอยสีแดงจำนวนมากผลโตกลมกว้างประมาณ5ซม.ยาว6.5ซม.ภายในมีเมล็ดเป็นจำนวนมาก
    กระโดนน้ำเป็นไม้ที่พบตามป่าเบญจพรรณป่าหญ้าในที่ลุ่มพบมากตามริมฝั่งแม่น้ำลำคลองหนองบึง
    หรือที่ลุ่มน้ำท่วมถึงกระโดนเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงปรมาณ8-17เมตรผลัดใบแต่ผลิใบใหม่เร็วทรง
    พุ่มแผ่กว้างเปลือกสีน้ำตาลเข้มน้ำตาลแดงหนาและหยาบปลายกิ่งมักจะลู่ลงใบเป็นใบเดี่ยวออกสลับเห็น
    เป็นกลุ่มอยู่ตอนใกล้ปลายกิ่งใบรูปรูปหอกกลีบหรือรูปไข่กลีบกว้าง2.5-8.5ซม.ยาว5-16ซม.ปลายใบ
    มนทุ่เว้าเล็กน้อยหรือเป็นกิ่งสีแดงสดหรือแดงเรื่อๆช่อดอกอาจยาวได้ถึง40ซม.มีกลิ่นหอมอ่อนๆกลีบ
    เลี้ยงโคนเชื่อมติดกันปลายแยกเป็น4กลีบสีชมพูเกสรตัวผู้มีจำนวนมากส่วนก้านเกสรยาวสีแดงสดเห็น
    เด่นชัดเรียงเป็นชั้นๆ3ชั้นโดยมีโคนเชื่อมติดกันและเชื่อมติดกับกลีบดอกเกสรตัวผู้ร่วงง่ายผลเป็นรูป
    สี่เหลี่ยมมีสันเหลี่ยมเมล็ดเป็นรูปไข่ผิวเป็นร่อง1ผลมี1เมล็ด

    การปลูก
    เป็นพรรณไม้ที่ทนความแห้งแล้งและแสงแดดได้ดีการขยายพันธุ์ด้วยวิธีเมล็ดในช่วงฤดูฝนหรือการตอนกิ่ง

    ประโยชน์ทางยา
    กระโดนบกใบมีสารแทนนิน19เปอร์เซ็นต์ทำให้มีรสฝาดใช้ปรุงเป็นน้ำมันสมานแผลและใบใช้เป็นยา
    เบื่อปลาได้,เปลือกและผลใช้เป็นยาฝาดสมาน,ดอกและน้ำจากเปลือกใช้ผสมกับน้ำผึ้งใช้ทานเป็นยาแก้หวัด
    แก้ไอทำให้ชุ่มคอและเป็นยาบำรุงสำหรับสตรีหลังคลอดบุตร,ผลเป็นยาช่วยย่อยอาหาร,เมล็ดเป็นยาแก้
    พิษ,รากและใบใช้เป็นยาเบื่อปลา
    กระโดนน้ำเปลือกมีรสผาดใช้ชะล้างบาดแผลสมานแผลเรื้อรังและใช้เบื่อปลาได้ ,ใบแก้ท้องร่วง,รากใช้เป็นยาระบาย,ผลเป็นยาแก้หวัด,เมล็ดเป็น
    ยารสร้อนแก้ลมแน่นใช้ในการคลอดบุตรทำให้อาเจียนระงับความเย้นแก้อาการไอของเด็ก

    ประโยชน์ทางอาหาร
    ส่วนที่เป็นผัก/ฤดูกาลยอดอ่อนใบอ่อนและดอกอ่อนสำหรับความนิยมของกระโดน้ำและกระโดนบกนับว่า
    ชาวอีสานนิยมกระโดนน้ำมากกว่ากระโดนบกและมีรสชาติอร่อยกว่าฝาดน้อยกว่าส่วนกระโดนบกชาวบ้าน
    ก็จะเลือกต้นที่มียอดสีเขียวอ่อนมากกว่าต้นที่มียอดอ่อนสีแดงความนิยมในการรับแระทานผักกระโดนของ
    ชาวอีสานลดน้อยลงบ้างเพราะเชื่อว่าผักกระโดนทำให้เป็นนื่วได้แต่ทว่าวงจรของอาหารธรรมชาติจะช่วย
    สร้างความสมดุลเราสังเกตได้ว่ากระโดนบกและกระโดนน้ำจะผลิยอดอ่อนคนละฤดูกาลกระโดนน้ำจะออก
    ยอดอ่อนกลางฤดูฝน(เดือนกรกฎาคม-เดือนสิงหาคม)และจะออกยอดให้เก็บได้บ่อยๆส่วนกระโดนบกจะ
    ออกยอดอ่อนปลายฤดูแล้ง(เดือนมีนาคม-เดือนเมษายน)ต่อต้นฤดูฝนหรือในช่วงเริ่มลงนาซึ่งในระยะนี้
    อาหารโปรตีนในธรรมชาติจะมีปริมาณสูงขึ้นเช่นกบปลาแงกี่นูนแมงกุดจี่ไข่มดแดงเป็นต้นเช่นกันจากการ
    วิจัยพบว่าถ้าร่างกายได้ปริมาณสารออกซาเลทหรือกรดออกซาลิคในปริมาณสูงและได้รับสารโปรตีนใน
    ปริมาณต่ำอาจเป็นสาเหตุเบื้องต้นของการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะโอกาสที่จะขาดสารโปรตีนจะน้อยลง
    นอกจากนี้ในผักกระโดน(สด)100กรัมประกอบด้วยปริมาณออกซาเลท59มิลลิกรัม(น้อยกว่าผักโขม16
    เท่าและน้อยกว่าผักชะพลู12เท่า)อาจกล่าวได้ว่าเป็นปริมาณต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับผักชนิดอื่นการปรุง อาหารชาวอีสานชาวใต้และชาวเหนือรับประทานผักกระโดนโดยรับประทานเป็นผักสดกับน้ำพริกชาว
    อีสานดูจะนิยมผักกระโดนมากกว่ากระโดนบกเพราะนอกจากรับประทานกับสัมตำร่วมกับลาบก้อยยอด
    กระโดนบกมักจะนำมารับประทานกับยำมดแดงชาวบ้านมักเก็บตามป่าธรรมชาติหรือหาซื้อได้ตามตลาด
    สดในท้องถิ่น

    รสและประโยชน์ต่อสุขภาพ
    ยอดอ่อนและดอกอ่อนรสฝาดอมมันผักระโดน100กรัมให้พลังงานต่อร่างกาย83กิโลแคลอรี่มีเส้นใย1.9
    กรัม,แคลเซียม13มิลลิกรัม,ฟอสฟอรัส18มิลลิกรัม,เหล็ก1.7มิลลิกรัม,วิตามินเอ3958IU,วิตามินบี
    หนึ่ง0.10มิลลิกรัม,วิตามินบีสอง0.88มิลลิกรัม,ไนอาซิน1.8มิลลิกรัม,วิตามินซี126มิลลิกรัม

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •