กำลังแสดงผล 1 ถึง 2 จากทั้งหมด 2

หัวข้อ: ข้อเท็จจริงมังสวิรัติ

  1. #1
    ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมหา สัญลักษณ์ของ ฅนภูไท
    วันที่สมัคร
    Apr 2007
    กระทู้
    2,115
    บล็อก
    1

    ความเยือกเย็น ข้อเท็จจริงมังสวิรัติ

    คัดลอกบางส่วนจาก ข้อเท็จจริงมังสวิรัติ
    ธรรมรักษา


    ๑. พระพุทธเจ้าทรงห้ามฆ่าสัตว์ แต่เหตุไฉนจึงไม่ห้ามการกินเนื้อสัตว์ด้วย ข้อนี้ไม่ขัดแย้งกันหรือ ?

    ไม่ขัดแย้งแน่นอน การฆ่าหรือไม่ฆ่าสัตว์นั้น พระพุทธเจ้าเน้นที่ 'เจตนา' เป็นใหญ่ และการฆ่ากับการกินนั้น อาการของจิตก็ต่างกันมาก ให้สังเกตจากจิตของเราเองก็คงรู้ ว่าเมื่อเราฆ่าไก่ กับการที่เรากินไก่ ที่คนอื่นเขาฆ่า และทำอาหารมาให้เรานั้น เหมือนกันหรือไม่ ?

    ถ้าสามารถสังเกตได้ คำตอบจะออกมาเอง ว่าเหตุใด พระพุทธเจ้าทรงห้ามฆ่าสัตว์ แต่ทำไมจึงไม่ทรงห้ามการกินเนื้อสัตว์ด้วย?...

    ๒. การกินเนื้อสัตว์ ชื่อว่าส่งเสริมการฆ่าสัตว์ด้วยหรือไม่? เพราะถ้าเราไม่กิน ไม่ซื้อ ก็ไม่มีการฆ่าสัตว์มิใช่หรือ ?

    ปัญหาเรื่องนี้ต้องแยกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายพระกับฝ่ายชาวบ้าน สำหรับพระนั้นตัดออกไปได้เลย เพราะพระไม่อาจที่จะเรียกร้อง ว่าต้องการอาหารอย่างนั้นอย่างนี้ ชาวบ้านเขากินอย่างไร? เขาจัดหามาอย่างไร? พระก็ต้องฉันไปอย่างนั้น จึงจะถือว่าเป็นพระสายพระพุทธเจ้า

    ด้วยเหตุนี้ พระที่ฉันเนื้อจึงไม่ถือว่า มีส่วนในการฆ่าสัตว์ เพราะพระกินตามชาวบ้านเขา ถ้าชาวบ้านเขาเอาอาหารเจหรืออาหารโชมาถวาย พระก็ต้องฉันอย่างนั้น

    แต่สำหรับชาวบ้านนั้น ถ้าเขาซื้อเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว มาปรุงอาหารก็ไม่ถือว่าเป็นบาป หรือมีส่วนร่วมในการฆ่าสัตว์ ด้วยแต่ประการใด เพราะไม่มีเจตนาในการฆ่าสัตว์ ไม่เข้าในองค์ ๕ ของการฆ่าสัตว์แม้แต่ข้อเดียว

    องค์ของการผิดศีลข้อที่ ๑ ในศีล ๕ มีองค์ประกอบ พร้อมด้วย ๕ ข้อ คือ

    ๑. สัตว์มีชีวิต
    ๒. รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
    ๓. มีจิตคิดจะฆ่า
    ๔. พยายามฆ่า
    ๕. สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น

    ศีล ๕ ข้อที่ ๑ จะขาดได้ จะต้องละเมิดครบทั้ง ๕ องค์...

    ...แต่ถ้าใครเกิดนึกรังเกียจว่า เพราะเรายังกินเนื้อสัตว์อยู่เขาจึงยังมีการฆ่ามาขาย ถ้านึกรังเกียจอย่างนี้ก็อย่ากิน จงหันไปกินมังสวิรัติแทน ถ้ากินแล้วมันจะสบายใจ

    แต่แน่ใจหรือว่า เมื่อกินแต่พืชผักผลไม้แล้ว จะไม่ส่งเสริมการฆ่าสัตว์? บางทีจะฆ่าสัตว์มากกว่าเสียอีก เพราะไม่ว่าผักหรือผลไม้อะไร เขาก็ใช้ยาฆ่าแมลงทั้งนั้น

    ถ้าเราไม่กินผักและผลไม้ เขาก็ไม่ต้องฆ่าแมลงเพิ่มขึ้น เพื่อเอาผักและผลไม้มาขายเรา อย่างนี้เราจะได้ชื่อว่าส่งเสริมการฆ่าแมลงด้วยหรือไม่? ขอให้คิดด้วยความยุติธรรม อย่าอคติ!

    แม้แต่การกินข้าว เขาก็ต้องฆ่าสัตว์ เริ่มตั้งแต่การไถนา ไส้เดือน กิ้งกือ มด แมลงต่าง ๆ ที่อยู่ตามพื้นดินก็ต้องตายกันเป็นเบือ ข้าวเป็นโรคก็ต้องฉีดยาฆ่า คนกินข้าวก็ไม่พ้นบาปอีก แล้วจะกินอะไรดี? ถึงจะไม่ต้องมีส่วนร่วมในการฆ่าสัตว์ทางอ้อม?

    เอ้า, แม้ว่าจะไม่กินอะไรเลย ถ้ายังต้องหายใจอยู่ มันก็ยังมีเชื้อโรคในอากาศ ผ่านเข้าไปถูกความร้อนของลมหายใจ ตายอีกมากมายนับไม่ถ้วน โอ๊ย! ขืนคิดมากมันจะบ้าตาย ?

    การคิดอะไรเกินไป คิดมากไป คิดไม่พอดี มันจะทำให้เป็นบ้า หรืออยู่ในโลกนี้ลำบาก ในฐานะชาวพุทธ ก็ควรที่จะปฏิบัติตามแนวของพระพุทธเจ้าดีกว่า...

    -------------------------------------------------------------------------------------------------
    คัดลอกจาก: พระไตรปิฎกฉบับธรรมทาน
    พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์

    ๕. ชีวกสูตร
    เรื่องหมอชีวกโกมารภัจจ์

    [๕๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ อัมพวันของหมอชีวกโกมารภัจจ์ เขตพระนครราชคฤห์. ครั้งนั้นแล หมอชีวกโกมารภัจจ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าได้ฟังคำนี้มาว่า ชนทั้งหลายย่อมฆ่าสัตว์เจาะจงพระสมณโคดม พระสมณโคดมทรงทราบข้อนั้นอยู่ ยังเสวยเนื้อที่เขาทำเฉพาะตน อาศัยตนทำ ดังนี้

    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ชนเหล่าใดกล่าวอย่างนี้ว่า ชนทั้งหลายย่อมฆ่าสัตว์เจาะจงพระสมณโคดม พระสมณโคดมทรงทราบข้อนั้นอยู่ ยังเสวยเนื้อที่เขาทำเฉพาะตน อาศัยตนทำ ดังนี้

    ชนเหล่านั้นชื่อว่า กล่าวตรงกับที่พระผู้มีพระภาคตรัส ไม่ชื่อว่ากล่าวตู่พระผู้มีพระภาคด้วยคำอันไม่เป็นจริง ชื่อว่ายืนยันธรรมอันสมควรแก่ธรรม การกล่าวและกล่าวตามที่ชอบธรรม จะไม่ถึงข้อติเตียนละหรือ?

    เนื้อที่ไม่ควรบริโภค และควรบริโภค ๓ อย่าง

    [๕๗] พ. ดูกรชีวก ชนใดกล่าวอย่างนี้ว่า ชนทั้งหลายย่อมฆ่าสัตว์เจาะจงพระสมณโคดมพระสมณโคดมทรงทราบข้อนั้นอยู่ ก็ยังเสวยเนื้อสัตว์ที่เขาทำเฉพาะตน อาศัยตนทำ ดังนี้

    ชนเหล่านั้นจะชื่อว่ากล่าวตรงกับที่เรากล่าวหามิได้ ชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยคำอันไม่เป็นจริง ดูกรชีวกเรากล่าวเนื้อว่า ไม่ควรเป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนเห็น เนื้อที่ตนได้ยิน เนื้อที่ตนรังเกียจ ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของไม่ควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ นี้แล

    ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ เนื้อที่ตนไม่ได้เห็นเนื้อที่ตนไม่ได้ยิน เนื้อที่ตนไม่ได้รังเกียจ ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล.




  2. #2
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

    ผู้ใดที่สามารถลดละเลิกการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตได้ถือว่าประเสริฐแล่วล่ะ
    อนุโมทนาบุญนำหลาย ๆ อันนี้กะตั้งใจกินเจในวันพระ...กะลืมประจำ
    เพราะมันเป็นสิ่งที่เฮาบ่ได้ทำเป็นประจำ...หรืออีกอย่างคือคนบ่ตั้งใจ
    จริงเป็นตาซังเน๊าะ...แต่กะบ่ได้ล้มเลิกดอกจ้ากะสิทำให้ได้พู้นล่ะ...อิอิอิ
    ไปเลย...
    :)

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •