◄กาลามสูตร►


๗๐. กาลามสูตรคืออะไร นํามาใช้อย่างไร

กาลามสูตร เป็นพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ ซึ่งมีเชื้อสายกษัตริย์​ พํานักอยู่ที่เกสปุตตนิคม พระสูตรนี้ในพระไตรปิฎกจึงเรียก เกสปุตตสูตร หรือเกสปุตติยสูตร เราจะค้นหาพระสูตร ชื่อกาลามะในพระไตรปิฎกไม่พบ เพราะท่านเรียกพระสูตรนี้ว่า เกสปุตตสูตร ดังกล่าวแล้ว

คราวหนึ่ง พระพุทธเจ้าเสด็จไปที่เกสปุตตนิคมของชาวกาลามะ พวกเขาพากันมาเฝ้า กราบทูลว่าสมณพราหมณ์เป็นอันมาก ผ่านมาทางนี้ ต่างแสดงลัทธิของตนว่าดีว่าถูก ส่วนลัทธิของผู้อื่นไม่ดี ไม่ถูก พระพุทธเจ้าทรงเห็นอย่างไร พระพุทธองค์ตรัสว่า ควรจะสงสัยทีเดียว แล้วตรัสว่ายังไม่ควรรับเชื่อเพราะเหตุ ๑๐ ประการ ดังนี้คือ

๑. โดยได้ฟังมา

๒. โดยถือสืบๆ กันมา

๓. โดยข่าวลือ

๔. โดยการอ้างตํารา

๕. โดยตรรกศาสตร์ (มา ตกฺกเหตุ)

๖. โดยนัยหรือโดยการเก็งความจริงแบบปรัชญา (Philosophical Speculation)

๗. โดยตรึกตามอาการ หรือโดยการพิจารณาอาการว่า น่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

๘. โดยเห็นว่าตรงกับความเห็นของเรา

๙. โดยเห็นว่าผู้พูดพอเชื่อถือได้

๑๐. โดยเห็นว่า ผู้นั้นเป็นสมณะ (หรือครู) ของเรา

แต่ทรงขอร้องให้ชาวกาลามะ พิจารณาด้วยปัญญาของตนเอง

สอบสวนไต่ถามท่านผู้รู้ ซึ่งเป็นวิญญูชน (คือท่านผู้มีความรู้ดีและมีความประพฤติดี) และลองปฏิบัติดู ถ้าเห็นว่ามีโทษก็ละเสีย ถ้าเห็นว่ามีคุณก็จงสมาทานและยึดไว้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว จะเห็นได้เองว่า เราควรจะนํากาลามสูตรมาปฏิบัติอย่างไร

ควรสังเกตว่า กาลามสูตรนี้เป็นธรรมสัจจะคือความจริงเฉพาะกรณี เฉพาะเรื่อง คือ ทรงแสดงในกรณีของชาวกาลามะเท่านั้น ไม่ทรงแสดงทั่วไปแก่คนเหล่าอื่น ไม่เหมือนพระพุทธดํารัสที่เป็นสัจธรรม เช่น อริยสัจ ๔ ไตรลักษณ์ เป็นต้น ซึ่งเป็นความจริงสากล



ที่มาหหนังสือ ธรรมะระเบียงแก้ว (อาจารย์วศิน อินทสระ ขวัญ เพียงหทัย)