กำลังแสดงผล 1 ถึง 3 จากทั้งหมด 3

หัวข้อ: ปัญญาของตน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

Hybrid View

คำตอบที่แล้วมา คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป คำตอบถัดไป
  1. #1
    ดูแลตรวจสอบเนื้อหา สัญลักษณ์ของ ต้นข้าว
    วันที่สมัคร
    Dec 2007
    กระทู้
    588

    ปัญญาของตน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

    ปัญญาของตน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)

    การเรียน การท่อง การจำ เป็นเพียงระดับหนึ่งของความสำคัญในการศึกษาพระพุทธศาสนา ปัญญายังไม่เกิดจากการเรียนและจำได้ท่องได้ สอนเขาต่อไปได้เท่านั้น

    อันความรู้ที่ได้จากการเรียนการท่องจำ รวมทั้งการพูดได้สอนได้เช่นนั้น
    ยังไม่ใช่ปัญญาของผู้เรียนรู้ท่องจำได้นั้น
    ยังเป็นเพียงการยกปัญญาของท่านผู้อื่นมาพูดมาสอนเท่านั้น

    แน่ๆ คือเป็นพระปัญญาของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
    และอาจเป็นปัญญาของพระอริยบุคคลที่ได้ยินได้ฟังมาจากท่าน และจดจำไว้แสดงต่อเท่านั้น

    จะเป็นปัญญาของเราแต่ละคนก็ต้องหมายความว่า เราเรียนรู้จากการฟังการอ่านข้อเขียนของท่านผู้นั้นผู้นี้ จนเข้าถึงใจแม้พอสมควร นั่นจึงจะเป็นปัญญาของเราผู้เรียนรู้และปฏิบัติ จนเกิดความเข้าใจหรือความรู้ด้วยตนเอง

    เมื่อใดเป็นปัญญาของเรา เมื่อนั้นเราจึงจะได้ประโยชน์จากการเรียนธัมมะ
    จะพูดถึงส่วนที่เป็นปัญญาคือความรู้ของเราได้อย่างไม่ผิด
    ขอฝากให้เข้าใจเรื่องความรู้และปัญญาไว้ให้ดี
    ทำความเข้าใจให้ชัดเจนตั้งแต่บัดนี้
    จะได้ไม่รู้ธัมมะเพียงการท่องจำ ซึ่งเป็นประโยชน์น้อย
    เหมือนทำตัวเป็นหนังสือที่มีข้อเขียนสำหรับให้มีผู้เปิดอ่าน
    ให้ผู้อื่นฟังบ้างให้ตัวเองรู้เรื่องบ้างเท่านั้น
    เป็นประโยชน์สำหรับผู้ทำตัวเป็นเพียงหนังสือเท่านั้น

    จงทำปัญญาให้เกิดจะดีกว่า ปัญญานั้นเกิดแต่การเรียนรู้แล้วคิดทำความเข้าใจให้เป็นปัญญาของตน ไม่เป็นปัญญาของท่านผู้รู้จริงทั้งหลายเท่านั้นท่องจำให้เป็นหนังสือนั้นอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้มาอ่าน แต่เป็นประโยชน์แก่ตนเองน้อยมากและอาจเป็นโทษด้วยซ้ำไป

    แม้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจว่า
    ตนเป็นผู้รู้ธัมมะที่สำคัญที่มีรู้น้อยคน
    แล้วความทะนงใจ ยกตนข่มท่าน ข่มใครต่อใคร ก็จะตามมา
    ไม่มีคุณแก่ตนเอง ทั้งยังมีโทษอย่างมาก

    เรื่องนี้จึงสำคัญมาก ขอจงพยายามทำความเข้าใจในเรื่องนี้ให้ถูกต้อง
    เตือนตนเองไว้ให้สม่ำเสมอว่า
    ปัญญาเกิดแต่ต้องเรียนเป็นอันดับแรก
    แล้วจึงนำที่เรียนไว้นั้นไปคิดไตร่ตรองให้เกิดความเข้าใจชัดเจน
    ที่เรียกว่าเกิดเป็นปัญญานั่นเอง

    อย่างไรก็ตามขอให้พยายามคิดพูดทำอย่างมีสติ ทุกขณะจิตคิดพูดทำแต่ที่ดีงาม
    และจำไว้ให้มั่นด้วย ว่าสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทางภาษิตไว้ว่าดังนี้

    “ความรู้เกิดแก่คนพาล ก็เพียงเพื่อความฉิบหาย
    มันทำสมองของเขาให้เขว ย่อมฆ่าส่วนที่ขาวของคนพวกนั้นเสีย”

    พูดง่ายๆ ก็คืออย่าเป็นคนพาล เพราะมีความรู้แล้วจะได้ไม่เป็นโทษร้ายแรง





    : แสงส่องใจ มาฆบูชา ๒๕๔๕
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

  2. #2
    ฝ่ายเทคนิคและโปรแกรม สัญลักษณ์ของ เต็มใจให้เธอ
    วันที่สมัคร
    Jul 2007
    ที่อยู่
    ดอกคูณ เสียงแคน ขอนแก่น
    กระทู้
    1,157
    บล็อก
    6
    สาธุ บ่าวเต็มมาฟังธรรมเทศนาครับ
    คำว่า บ้านมหา อยู่ตรงนี้เองครับ สาธุ

  3. #3
    ร่วมถ่ายทอดความรู้สู่สังคม สัญลักษณ์ของ โด้ไดอารี่
    วันที่สมัคร
    Feb 2008
    ที่อยู่
    Manchester, Uk
    กระทู้
    637
    ธรรมใดใดก็ไร้ค่า.........ถ้าไม่ทำ.......พระท่านว่า
    เราเกิดมา..........จงทำดี........มีเหตุผล
    ให้เชื่อกรรม.......ผลแห่งกรรม........ที่ทำตน
    อยากจะพ้น.........ทุกข์โศก.........หมั่นทำดี

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •