บทความนี้จะแนะนำแนวทางว่าคุณจะสร้าง Custom Search Engine ที่แสดงผลลัพธ์ที่ดีกว่าของ Google อย่างไร
จาก ที่ Google เก็บ Web Page ไว้จำนวนมาก จนทำให้เกิดปัญหากับผู้ใช้งานว่า ผลลัพธ์ที่ได้มากจนเกินไป ทำให้การค้นหาสิ่งที่ต้องการยากขึ้นกว่าเดิมมาก
ซึ่ง ปัญหานี้ทาง Google ได้ออกบริการใหม่ที่ชื่อว่า “Google Custom Search Engine” สำหรับให้ ผู้ชำนาญเฉพาะด้านสามารถกำหนดรายละเอียดการค้นหาไว้เอง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้เฉพาะด้านมากขึ้น ไม่ต้องไล่หาสิ่งที่ต้องการจากผลลัพธ์อีกรอบ อีกรอบ และ อีกรอบ
Google Custom Search Engine เริ่มเปิดให้ใช้งานครั้งแรกเมื่อ 24 ตุลาคม 2549 โดยเปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถมี Custom Search Engine เป็นของตนเองได้ไม่ยาก เพียงแต่เป็นสมาชิกของ Google แล้วสร้างใส่รายละเอียดของ Search Engine ที่ต้องการเข้าไป เสร็จแล้วก็สามารถนำหน้า Web Search มาใช้งานได้เลย หรือใครมีเว็บไซท์อยู่แล้ว ก็สามารถนำมา Code ใช้งานได้เลยไม่ยาก
ขั้นตอนหลักในการสร้าง Custom Search Engine
1. หา Topic Area
2. หา ข้อความค้นหา (10 ถึง 20) สำหรับใช้ทดสอบ CSE
3. รวบรวมรายชื่อของ Website ที่เหมาะสมสำหรับ Topic นั้น
4. สร้างหน้า CSE สำหรับทดสอบโดยใช้หน้าของ Google
5. ทดสอบ CSE ที่ได้จากการวาง Code บนหน้าเว็บของคุณ
6. ปรับแต่งและทำซ้ำจนพอใจ
7. รอรับผลการใช้งานจากผู้ใช้
1. หา Topic Area
ขั้น ตอนแรก คุณต้องยอมรับว่าคุณไม่ควรทำ search engine สำหรับเว็บทั้งหมดเอง (ถ้าทำได้คุณก็ทำแข่งกับ Google ได้เลย) แต่เป้าหมายควรจะเป็นผลลัพธ์ที่ตรงใจผู้ใช้มากกว่า เช่นเดียวกันการตั้ง Topic Area สำหรับทำ CSE ไว้กว้างเกินไปจะกลายเป็นงานยากสำหรับคุณ ดังนั้นคุณควรจะมุ่ง (Focus) ไปยังเรื่องที่คุณมีความรู้ความชำนาญอยู่แล้วมากกว่า
ขั้นต่อไป สร้าง search engine ที่ดีกว่า โดยสมมุติฐานว่า search engine ตัวเดิมมีข้อจำกัดอยู่ ดังนั้นวิธีที่ดีในการเริ่มคือ หาข้อจำกัดของผลลัพธ์นั้น ซึ่งวิธีที่ช่วยให้ผลการค้นหาที่ได้ จำกัดเฉพาะเรื่องที่เจาะจงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
ตัวอย่าง เช่น ถ้าคุณค้นหาคำยอดยอดฮิต เช่น โรคข้ออักเสบ Google จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เป็นการค้นหาของหมอ, นักเรียนที่กำลังทำวิจัย, หรือพนักงานบริษัทที่ผลิตยากำลังทำวิจัยอยู่ ซึ่งปัญหานี้สามารถแก้ได้โดยทำให้ CSE ค้นหาในแนวตั้งได้ โดยคุณอาจสร้าง 4 CSE ดังนี้